กทม. ลงพื้นที่สร้าง 'ภูมคุ้มกันคนไร้บ้าน' แนะป้องกันไม่ให้ถูกล่อลวงเปิดบัญชีม้า พร้อมพัฒนาอาชีพให้แล้ว 132 คน
นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร ชี้แจงกรณีปัญหาการล่อลวงคนไร้บ้านเปิดบัญชีม้าบริเวณสนามหลวง โดยกล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าว กรุงเทพมหานคร โดย สำนักพัฒนาสังคม สำนักงานเขตพระนคร ร่วมกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตำรวจนครบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้ไร้บ้านในบริเวณใกล้เคียง พื้นที่สนามหลวง เช่น บริเวณถนนราชดำเนินกลาง ซอยสาเก และใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการคุ้มครองสวัสดิการ การให้ข้อมูลสิทธิขั้นพื้นฐาน
ในกรณีนี้ ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ ให้คำปรึกษา แนะนำในการป้องกันการถูกล่อลวง เพื่อใช้บัญชีหรือเอกสารส่วนตัวในทางผิดกฎหมาย เช่น ให้ความรู้เรื่องการไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ผู้อื่นทราบ อย่าหลงเชื่อคนแปลกหน้าที่ว่าจ้างให้เปิดบัญชี และรักษาเอกสารหลักฐานทางราชการของตนเองให้ดี อย่าให้สูญหาย อันอาจมีการนำไปกระทำการที่ผิดกฎหมายได้
และกรณีที่ตกเป็นเหยื่อแล้ว จะดำเนินการประสานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวน รวมถึงให้การคุ้มครองตามกฎหมายและฟื้นฟูทางสังคม และดำเนินการออกบัตรประชาชนใหม่ หากเอกสารถูกใช้โดยมิชอบ
เดินหน้าช่วยเหลือพร้อมหาอาชีพให้คนไร้บ้าน มีงานทำแล้ว 132 คน
หากผู้ไร้บ้านต้องการได้รับสวัสดิการ อาหาร หรือต้องการมีงานทำ สามารถมาลงทะเบียนกับกรุงเทพมหานคร หรือ กระทรวงแรงงาน ที่บ้านอิ่มใจ สำนักงานการประปาแม้นศรี (เดิม) หรือที่จุดบริการ Drop in ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร) ทุกวัน ซึ่งจะช่วยให้มีงานทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย
โดยสำนักพัฒนาสังคมได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในงานที่คนไร้บ้านสามารถทำได้ เช่น พนักงานสวน พนักงานทำความสะอาด ช่างก่อสร้าง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พนักงานขับรถยนต์ พนักงานเสิร์ฟ ฯลฯ
ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนประสงค์ขอทำงาน 259 คน มีคนไร้บ้านที่ได้งานทำแล้ว 132 คน อยู่ระหว่างรอเรียกตัว 11 คน ขณะเดียวกัน สำนักพัฒนาสังคม ประสานสำนักงานปกครองและทะเบียน (หน่วยเคลื่อนที่) กรณีมีคนไร้บ้านมาขอทำบัตรประจำตัวประชาชน โดยให้คำแนะนำแก่คนไร้บ้าน ในกรณีดังกล่าวนี้ด้วย
มาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน
ในปี พ.ศ. 2553 กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อจัดระเบียบและดูแลความปลอดภัยพื้นที่สนามหลวง ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญ โดยดำเนินการติดตั้งรั้วเหล็กความสูง 2 เมตร ล้อมรอบสนามหลวงกำหนดเวลา เปิด-ปิดชัดเจน (เปิด 05.00 น. และปิด 22.00 น.) พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ผลจากมาตรการดังกล่าว ทำให้ปัจจุบัน “การตั้งถิ่นฐานค้างคืนโดยคนไร้บ้านในพื้นที่สนามหลวง” ลดลงอย่างมากหรือแทบไม่มีแล้ว อย่างไรก็ตามบริเวณใกล้เคียง เช่น ถนนอัษฎางค์และถนนราชดำเนิน ยังอาจพบคนไร้บ้านกระจายตัวอยู่บ้าง ซึ่งสำนักงานเขตพระนครได้จัดทีมสังคมสงเคราะห์ร่วมกับมูลนิธิและเครือข่ายอาสาสมัคร เข้าติดตามและให้การช่วยเหลือเป็นระยะ
“กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าได้ดำเนินการในขอบเขตอำนาจหน้าที่อย่างครบถ้วน ทั้งด้านการประสานงาน การเฝ้าระวัง การให้ความช่วยเหลือผู้ไร้บ้าน และการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่อลวงคนไร้บ้านเข้าสู่ขบวนการผิดกฎหมายอย่างจริงจังต่อไป และกรุงเทพมหานครยังคงดำเนินงานเชิงรุกในการส่งเสริมให้คนไร้บ้านเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ทั้งการมีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง มีอาชีพเพื่อหารายได้พึ่งพาตนเอง และการตรวจสุขภาพเพื่อให้มีสุขภาวะที่ดี” โฆษก กทม. กล่าว